วีดิทัศน์ระบบ PAL ที่ซ่อนคำบรรยายภาษาไทย - อังกฤษ
A PAL Thai-English Closed Caption Video System


หลักการ
สัญญาณเส้นกวาด (scan line) ทั้งหมด 625 เส้น ของวีดิทัศน์ระบบ PAL จะประกอบด้วยส่วนที่เป็นช่วงว่าง 46 เส้น และเฟรม ภาพ 579 เส้น ช่วงว่างระหว่างเฟรมภาพ (Vertical Blanking Interval หรือ VBI) นี้ทำหน้าที่คล้ายช่องว่างระหว่างฟิล์มหนัง กล่าวคือทำให้เครื่องรับโทรทัศน์รู้จังหวะเริ่มต้นของเฟรมและนำภาพมาแสดงบนจอได้พอดี หากเราปรับปุ่ม Vertical Hold ให้เครื่องรับโทรทัศน์หลุดจากการเข้าจังหวะเฟรมภาพได้ เราจะเห็นช่วงว่างนี้ปรากฏบนจอดังแสดงในรูปที่ 1 ดังนั้นห้องปฏิบัติการวิจัยระบบเชิงเลข ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงคิดวิธีใส่รหัสคำบรรยาย (caption code) ลงในเส้นกวาดที่ 18 ซึ่งอยู่ในช่วงว่างดังกล่าว ดังแสดงเป็นขีดขาวสั้นและยาวใน รูปที่ 1

เนื่องจากเครื่องรับโทรทัศน์ธรรมดาจะไม่แสดงภาพของรหัสเหล่านี้ จึงกล่าวได้ว่าวีดิทัศน์นี้มีคำบรรยายซ่อนอยู่ (Closed Caption หรือ CC) ขณะเดียวกันห้องปฏิบัติการวิจัยได้พัฒนาเครื่องเข้ารหัส (encoder) เพื่อให้ผู้ผลิตใช้ซ่อนรหัสคำบรรยายในรายการวีดิทัศน์ และเครื่องถอดรหัส (decoder) ที่ใช้งานร่วมกับเครื่องรับโทรทัศน์ขึ้นดังแสดงในรูปที่ 2 เพื่อสร้างตัวอักษรของรหัสคำบรรยายที่ซ่อนไว้ให้ชมที่จอภาพได้

ข้อกำหนดของระบบ
วีดิทัศน์ที่พัฒนาขึ้นนี้มีชื่อเรียกว่า PAL Thai-English Line 18 Closed Caption Video System ซึ่งดัดแปลงมาจากระบบ NTSC Line 21 Closed Caption ที่ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกามากว่า 30 ปีแล้ว โดยเพิ่มความสามารถด้านภาษาไทยเข้าไป กล่าวคือระบบนี้จะมีช่อง (channel) คำบรรยายให้เลือกได้ 2 ช่อง ได้แก่ ช่อง CC1 สำหรับภาษาอังกฤษ และช่อง CC2 สำหรับภาษาไทย เราสามารถนำสัญญาณวีดิทัศน์ระบบนี้ไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์หรือบันทึกลงในแถบวีดิทัศน์ (Videotape) ระบบ VHS ที่ใช้ทั่วไปได้โดยไม่ทำให้รหัสคำบรรยายภาพที่ซ่อนอยู่นั้นหายไป ส่วนเครื่องถอดรหัสที่พัฒนาขึ้นจะมีลักษณะการต่อเพื่อใช้งานดังแสดงในรูปที่ 3 โดยมีสวิตซ์เลือกการทำงานอยู่ 3 ตัว คือ
  • สวิตซ์ Language เพื่อเลือกชนิดภาษาที่ต้องการชม
  • สวิตซ์ Background เพื่อเลือกรูปแบบการแสดงพื้นหลังของตัวอักษร
  • สวิตซ์ Caption เพื่อ เปิด / ปิด การแสดงคำบรรยายภาพบนจอ

    1. ประโยชน์ : วีดิทัศน์ระบบนี้สามารถตอบสนองความต้องการที่ต่างกันของคนปกติ และคนพิการทางหูโดยไม่รบกวน ซึ่งกันและกันได้ดังนี้
    2. คนพิการทางหู ได้แก่ คนหูหนวก และคนชรา จะสามารถชมรายการวีดิทัศน์ให้เข้าใจได้โดยกดสวิตซ์เปิดการแสดงคำบรรยายภาพขึ้นมาอ่านแทนการฟังเสียง ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นต้นแบบของแนวคิดนี้ได้สำรวจพบว่า คนกลุ่มนี้มีประมาณ 10% ของพลเมืองทั้งประเทศ หากใช้สัดส่วนนี้เป็นเกณฑ์ประเทศไทยจะมีคนกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 6 ล้านคน
    3. คนปกติกลุ่มหนึ่งที่ต้องการอ่านคำบรรยายภาพประกอบการชมรายการวีดิทัศน์ไปด้วย ได้แก่ คนไทยต้องการอ่านภาษาอังกฤษจากภาพยนต์ต่างประเทศ หรือคนต่างประเทศต้องการอ่านคำบรรยาย (ไทย หรือ อังกฤษ) จากรายการข่าวในประเทศเป็นต้น คนกลุ่มนี้จะกดสวิตซ์เลือกชนิดภาษาที่ต้องการอ่านได้
    4. คนปกติที่ไม่ต้องการเห็นคำบรรยายปรากฏบนจอภาพ เพราะรู้สึกเกะกะรำคาญ คนกลุ่มนี้จะกดสวิตซ์ปิดการแสดงคำบรรยายได้